เคล็ดลับสู่ผิวเปล่งประกาย: เมโสเซเลบ สารสกัดจากเห็ดหลินจือ
ปัญหารอยแผลเป็นจากสิว จุดด่างดำ ริ้วรอย หรือความแห้งกร้านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป อยากมีผิวที่เนียนเรียบ กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องเสียเวลากับครีมบำรุงผิวหรือไม่? หากว่าใช่เมโสเซเลบคือคำตอบ เมโสเซเลปเป็นการรักษาแบบปฏิวัติวงการที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวของคุณ
Meso celeb เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากญี่ปุ่นที่มี DNA จากเห็ดหลินจือ ซึ่งเป็นเห็ดที่ใช้รักษาโรคในเอเชียมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษเพื่อบำรุงสุขภาพ เห็ดหลินจือช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันความเครียดของร่างกายจากอนุมูลอิสระ เมโสเซเลบมีคุณประโยชน์จากคุณสมบัติเหล่านี้เพื่อบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก
เมโสเซเลบทำงานโดยการฉีดสารสกัดจากเห็ดหลินจือเข้าไปในผิวหนังชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน สารสกัดประกอบด้วย Fe2+ ซึ่งเป็นสารที่จับกับวิตามินในร่างกายและกระตุ้นให้ดีท๊อกซ์กำจัดสารพิษและอนุมูลอิสระที่ทำลายผิว นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย 43 ชนิดที่ช่วยบำรุงผิวและกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิกซึ่งเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติที่ทำให้ผิวของคุณเต่งตึงและลดเลือนริ้วรอย
ผลลัพธ์ที่ได้คือการปรับปรุงพื้นผิว โทนสีให้สม่ำเสมอ และความยืดหยุ่นของผิวอย่างเห็นได้ชัดจะสังเกตได้ถึงการลดลงของรอยสิว จุดด่างดำ ริ้วรอย และความแห้งกร้าน ผิวของจะดูกระจ่างใส เรียบเนียน และกระชับขึ้น ส่วนที่ดีที่สุดคือไม่จำเป็นต้องใช้ครีมหรือเซรั่มใดๆ หลังการรักษาด้วยเมโสเซเลบ
การรักษาด้วยเมโสเซเลปทำได้ง่ายและรวดเร็ว ควรรับบริการที่คลินิกที่ให้มีบริการเมโสเซเลบขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 15 นาทีและมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย อาจมีรอยแดงหรือบวมบริเวณที่ฉีด แต่จะบรรเทาลงภายในหนึ่งวัน สามารถกลับมาทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที
ผลลัพธ์ของเมโสเซเลบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์การออกแดดของคุณ แต่บางคนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจาก 3 วันและเห็นผลเต็มที่หลังจาก 7 ถึง 14 วันเพื่อรักษาผลลัพธ์ อาจต้องทำการรักษาซ้ำทุกๆ 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือน แพทย์จะแนะนำกำหนดเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
หากกำลังมองหาวิธีปรับเปลี่ยนคุณภาพผิวที่เป็นธรรมชาติ ได้ผล และสะดวก เมโสเซเลบคือคำตอบ เมโสเซเลบ เคล็ดลับผิวกระจ่างใสที่รอคอย อย่าพลาดโอกาสนี้ที่จะลองและเห็นความแตกต่างด้วยตัวคุณเอง
ขอบคุณ Pubmed